ผลสำรวจ ณ เดือนตุลาคม ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลดลง อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่เกณฑ์ทรงตัวจากเกณฑ์ร้อนแรงในเดือนก่อน กลุ่มบัญชีนักลงทุนรายบุคคลและกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศลดลงแต่อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเช่นเดิม ขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่เกณฑ์ทรงตัวเช่นเดิม

ในช่วงเดือนตุลาคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนใหญ่ปรับตัวเคลื่อนไหวทรงตัวในทิศทางลดลงอยู่ในช่วง 1600-1630 จุด ขณะที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงในช่วงปลายเดือน จากปัจจัยความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลก จากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศยังไม่ชัดเจน ความเสี่ยงด้านการส่งออกและกังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ทำให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วง 1590-1600 จุด ในช่วงปลายเดือน โดยทิศทางการลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดคือความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอีก 0.25% รองลงมาคือภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการไหลเข้าออกของเงินทุน ขณะที่นักลงทุนเฝ้าติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศและประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แม้ว่ามีความผ่อนคลายมากขึ้นและสหรัฐระงับการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนบางส่วน ยังคงเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลง สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงถดถอย ทิศทางนโยบายการการเงินของสหรัฐและยูโร ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แนวโน้มการพิจารณา BREXIT ที่คาดว่าขยายระยะเวลาออกไปม.ค.ปีหน้า ทิศทางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และนโยบายด้านการคลังของจีนเพื่อผ่อนคลายภาวะเศรษฐกิจจากสงครามทางการค้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และทิศทางมาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องที่ส่งผลต่อภาคการส่งออกและภาคท่องเที่ยว รวมถึงผลกระทบจากการประกาศยกเลิกสิทธิ GSP บางส่วนของสินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐ เป็นปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม