ในช่วงเดือนกรกฎาคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวเคลื่อนไหว Sideway ในช่วง 1706-1748 จุด จากระดับสูงสุดช่วงต้นเดือนเคลื่อนไหวลดลงสลับกับการพักตัว โดยดัชนีมาอยู่ระดับต่ำสุดของเดือนที่ 1706 จุด ในช่วงปลายเดือน โดยทิศทางการลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดคือการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศจากนักลงทุนต่างประเทศเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้น รองลงมาคือนโยบายทางการเงินของสหรัฐ จากการส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง 2562  และการคาดหวังนโยบายภาครัฐ ภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศโดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังมีการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถคาดการณ์ได้ เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือความกังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การส่งออกที่ลดลงและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตามอง สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวท่ามกลางปัญหาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐจากการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ 10% ในสินค้านำเข้าจากจีนในส่วนที่เหลือ และการงดนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐของจีน ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่ามาที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ภายหลังธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี แนวโน้มการเก็บภาษีนำเข้าภาษีรถยนต์ของสหรัฐที่ส่งผลต่อยุโรปและญี่ปุ่น การเจรจา Brexit ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีอังกฤษท่านใหม่ที่ประกาศออกจาก EU ในวันที่ 31 ต.ค.62 ไม่ว่าสามารถได้ข้อตกลงหรือไม่ก็ตาม สัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของ EU จากปัจจัยเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ทิศทางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจากตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ 6.2% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี รวมถึงปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง เป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตามอง