ทิศทางการลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยที่มีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดยังคงเป็นปัจจัยในประเทศจากสถานการณ์ทางการเมืองที่อยู่ระหว่างการประกาศผลเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงเดือนพ.ค. ขณะที่ปัจจัยการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศและปัจจัยทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นในลำดับรองลงมา ขณะที่ความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งยังคงเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง จากการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการปรับคาดการณ์ลดลง สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ ความเป็นไปได้กรณีมีการปรับลดอัตรานโยบายดอกเบี้ยของเฟดและผลกระทบ ความคืบหน้าและการคาดหวังการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนร่วมกันในเดือน พ.ค. กรณีพิพาทระหว่างสหรัฐฯ และ EU ในเรื่องการให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมการบินที่อาจส่งผลต่อการขึ้นภาษ๊นำเข้าระหว่างกัน โมเมนตัมทางเศรษฐกิจของ EU ที่อ่อนแอลงและเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงต่อจากนี้และการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปี ทิศทาง BREXIT ภายหลังการเลื่อนเส้นตายข้อตกลงจนถึงวันที่ 31 ต.ค. แนวโน้มการชะลอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลัง GDP ไตรมาส 1 ของจีนขยายตัว 6.4% ดีกว่าคาด และผลกระทบราคาน้ำมันภายหลังสหรัฐฯ ยุติผ่อนผันการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม