นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงแผนการดำเนินงาน ปี 2563 ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 กำหนดแผนงานต่อเนื่องในการผลักดันแผนพัฒนาตลาดทุนไทยและแผนงานภาคตลาดทุน และกำหนดแผนปี 2563 ผลักดันการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน จัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมทำหน้าที่ Investor Relations แก่นักลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ รวมถึงสนับสนุนด้านบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน

นายไพบูลย์ กล่าวว่านโยบายการดำเนินงานของ FETCO ในปี 2563 นี้ FETCO ภายใต้พันธกิจการเป็นตัวแทนภาคเอกชนเพื่อร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนไทยรวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายระหว่างรัฐและเอกชน จะดำเนินการโดยมีแผนงาน 9 แผนงานหลักประกอบด้วย 1) ผลักดันการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน 2) โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมกับกระทรวงการคลังทำหน้าที่ Investor Relations แก่นักลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ 3) สนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน 4) สนับสนุนการจัดทำโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน 5) สนับสนุน Capital Market Digital Roadmap 6) ผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ (ESG Collective Supporting) 7) สนับสนุนการพัฒนาทักษะทางการเงิน (Financial Literacy) 8) เสนอความคิดเห็นและให้คำปรึกษาต่อภาครัฐเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย และ 9) ติดตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยและแผนงานภาคตลาดทุน
นโยบายการดำเนินงานของ FETCO ดังกล่าว มาจากความเห็นร่วมกันว่าตลาดทุนสามารถเพิ่มศักยภาพให้ภาคเศรษฐกิจโดยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการขอความเห็นในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจระดับชาติ ร่วมกับภาคธุรกิจพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม และการจัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ทำหน้าที่สนับสนุนในฐานะ Investor Relations ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ เพื่อการเข้าถึงนักวิเคราะห์ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศระยะยาว การผลักดันแผนงานด้านตลาดทุนดิจิทัลร่วมกัน รวมถึงการผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีผลบังคับใช้ เช่น พรบ.ทรัสต์ เพื่อการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคลและลดการนำทรัพย์สินออกไปบริหารนอกประเทศ พรบ.มหาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการธุรกิจ พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อจัดให้มีการออมภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบ การปรับปรุงกฎหมายที่ไม่สามารถลงทุนในตลาดทุนได้ เช่น สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น ให้สามารถลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น สนับสนุนการลงทุนในกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (SSF) เพื่อให้นักลงทุนได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง การจัดทำแผนงานสนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน การผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนการ บูรณาการของภาครัฐในการทบทวนแผนงาน ทิศทางและกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาทักษะด้านการเงินและการลงทุน การร่วมเป็นองค์กรสนับสนุนในฐานะหน่วยงานที่มีสิทธิรับรองการเสนอโครงการของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) และการพิจารณาหาแนวทางสนับสนุนโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ FETCO กล่าวว่า “ภาวะการณ์เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย และทิศทางการดำเนินการธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางธุรกิจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนระยะยาว ดังนั้นภาคตลาดทุนจำเป็นต้องพิจารณาเตรียมพร้อมและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน มีเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพ การผลักดันและสนับสนุนส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตลาดทุนไทย สร้างมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีระบบการบริหารจัดการที่โปร่งใส ยุติธรรม รวมทั้งมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม”