“ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในโซนซบเซา
นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และนโยบายภาครัฐ
ขณะที่นักลงทุนกังวลกับการถดถอยของเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองในประเทศ”
—————————————————————————————————————————-
FETCO Press Release: วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2563
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนกันยายน 2563 พบว่า “ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 67.44 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนป้องกัน Covid-19 สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ รองลงมาคือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมถึงการระบาดระลอกสองของ Covid-19 ในหลายประเทศ”
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนกันยายน 2563 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้
- ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธันวาคม 2563) อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” (ช่วงค่าดัชนี 40 – 79) ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง อยู่ที่ระดับ 44
- ความเชื่อมั่นนักลงทุนรายบุคคลและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในระดับ “ทรงตัว” ส่วนความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในระดับ “ซบเซา”
- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD)
- หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธนาคาร (BANK)
- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
- ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ
“ผลสำรวจ ณ เดือนกันยายน 2563 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนบุคคลปรับตัวลงเล็กน้อยอยู่ในระดับ “ทรงตัว” ที่ 80.30 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในระดับ “ทรงตัว” เท่าเดิมที่ 100.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับตัวลดลงอยู่ในระดับ “ซบเซา” ที่ 68.42 ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ “ซบเซา” ที่ 42.86
เดือนกันยายน 2563 SET index ปิดที่ 1,237.04 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 5.62% จากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน อาทิ ข่าวการหยุดชะงักของโครงการพัฒนาวัคซีน Covid-19 ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีในหลายประเทศปรับลงแรง ข่าวสถาบันการเงินของไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัย สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนโยบายที่ี่ระดับ 0-0.25% ไปจนถึงปี 2566 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนป้องกัน Covid-19 สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ รองลงมาคือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมถึงการระบาดระลอกสองของ Covid-19 ในหลายประเทศ
สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งของ COVID-19 จนต้องกลับมาใช้มาตรการ lock down ในหลายประเทศ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่เพิ่มมากขึ้น การเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ใกล้เข้ามา ปัจจัยในประเทศที่น่าติดตามได้แก่ ผลจากการอนุมัติให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวมถึงเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA: STV) ปัญหาการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์การเมืองในประเทศที่ร้อนแรงขึ้น และผลจากการกลับมาเริ่มใช้เกณฑ์ปกติ “Short Selling – Ceiling & Floor” ของ SET และ TFEX”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)
โทร 02 009 9520 / 02 009 9506 / 02 009 9484
หรือ อีเมล์: fetco@set.or.th