“ผลสำรวจดัชนีฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2563 อยู่ในโซนทรงตัว
นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว
ขณะที่นักลงทุนกังวลกับสถานการณ์การเมืองและการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ”
—————————————————————————————————————————-
FETCO Press Release: วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนสิงหาคม 2563 ว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 16% อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเหมือนเดือนก่อน นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว และนโยบายภาครัฐ รวมถึงความคืบหน้าของการผลิตวัคซีนป้องกัน Covid-19 สำหรับปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ปัจจัยรองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน”
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนกรกฎาคม 2563 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้
- ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ตุลาคม 2563) อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (ช่วงค่าดัชนี 80 – 119) โดยลดลง 16% มาอยู่ที่ระดับ 26
- ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มอยู่ในระดับ “ทรงตัว”
- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD)
- หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธนาคาร (BANK)
- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
- ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
“ผลสำรวจ ณ เดือนกรกฎาคม 2563 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มอยู่ในระดับ “ทรงตัว” โดยความเชื่อมันกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับขึ้นมาเล็กน้อยที่ 87.04 ในขณะที่ความเชื่อมั่นของกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลดลงที่ 83.33 สถาบันในประเทศปรับลดลงที่ 89.47 และนักลงทุนต่างชาติปรับตัวลดลงที่ 83.33
ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 SET Index ปิดที่ 1,328.53 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนมิถุนายน โดยดัชนีอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,315—1,377 จุด หลังจากภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการส่งผลให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น การทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสสองของภาคธนาคารซึ่งดีกว่าคาดการณ์ การรายงานข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนรักษา Covid-19 โดยมีปัจจัยฉุดในบางช่วงจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน และสถานการณ์การเมืองในประเทศ
นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว และนโยบายภาครัฐ รวมถึงความคืบหน้าของการผลิตวัคซีนป้องกัน Covid-19 สำหรับปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ปัจจัยรองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทั้งของไทยและทั่วโลกที่อาจแย่กว่าคาดการณ์ การประกาศ GDP ไตรมาสที่ 2/2563ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมถึงการระบาดรอบสองของ Covid-19 ในหลายๆ ประเทศ โดยปัจจัยในประเทศที่น่าติดตามได้แก่ ความเสี่ยงที่ไทยอาจถูกกระทรวงการคลังสหรัฐขึ้นบัญชีดำประเทศที่ต้องจับตาเรื่องการแทรกแซงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมากำลังทยอยหมดลง และผลจากการผ่อนคลายธุรกิจระยะที่ 6 ที่จะเริ่มเปิดให้ชาวต่างชาติบางกลุ่มเข้าประเทศไทยได้”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)
โทร 02 009 9520 / 02 009 9506 / 02 009 9484 หรือ อีเมล์: fetco@set.or.th